ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไพ่แบล็คแจ็ค เป็นหนึ่งในเกมไพ่ในคาสิโน ออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ขณะเดียวกัน ในแง่ประวัติความเป็นมานั้น ก็ไม่ได้ปรากฎหลักฐานอะไรที่ชัดเจนออกมามากนัก เพียงแต่ส่วนใหญ่เชื่อว่า แบล็คแจ็ค มาจากประเทศฝรั่งเศส และ มาจากเกมเดิมพันที่ชื่อว่า vingt-et-un หรือแปลได้ว่า 20 และ 1 หรือ 21
ส่วนหนึ่งที่หลายคนเชื่อว่า แบล็คแจ็ค มาจากเกม vingt-et-un นั้น ก็เป็นเพราะว่ามีการแจกไพ่คล้ายกับกติกาของ เกมไพ่แบล็คแจ็ค ในปัจจุบัน และ วัตถุประสงค์หลักของเกมก็คือ การลุ้นผลรวมของแต้มในมือให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ต้องไม่เกิน 21 แต้มนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อมูลดังกล่าวแล้วนั้น ยังยังพบข้อมูลสนับสนุนของเกมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอีก ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่ของชาวอิตาเลียน ที่จะวัดผลแพ้ชนะจากแต้มที่รวมกันได้ 7.5 แต้ม
หากแต้มในมือเกินจากนี้ จะถือว่าแพ้ทันที รวมถึง ยังมีเกมไพ่จำนวน 31 แต้ม จากประเทศสเปน ที่มีแนวโน้มเช่นกันว่า อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารูปแบบของการเล่น เกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค ในปัจจุบัน
แบล็คแจ็คเป็นเกมเดิมพันที่จัดว่าง่ายเล่นไม่ยาก นั่นทำให้มันได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่นักพนันทั่วโลก กระทั่งมีการเปิดแข่งขันเป็นทัวร์ราเมนต์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยโดยเฉพาะมือใหม่ว่า แบล็คแจ็ค เล่นยังไง ดังนั้นเราจะขออธิบายในหัวข้อนี้ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
2.1.แลกชิปสำหรับเดิมพัน – ก่อนอื่นคุณจะต้องทำการซื้อชิปเพื่อเล่นเดิมพัน โดยคาสิโนส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้มีการเดิมพันด้วยเงินสด” เช่นเดียวกับในคาสิโนออนไลน์ที่จะเปลี่ยนเงินของคุณเป็นชิป ดังนั้นผู้เล่นจะต้องแลกเปลี่ยนเงินเป็นชิปเสียก่อน หลังจากนั้นให้วางเงินของคุณลงบนโต๊ะจากนั้นดีลเลอร์จะนับจำนวนชิปเท่ากับจำนวนเงินที่คุณซื้อ และผลักชิปเข้าหาคุณเพื่อใช้ในการเดิมพัน
2.2. ดีลเลอร์แจกไพ่ให้ผู้เล่น – เริ่มแรกคุณจะต้องวางเดิมพันในวงกลามสำหรับรอบแรก โดยหลังจากนั้นเจ้ามือจะแจกไพ่ตามเข็มนาฬิกาไพ่หนึ่ง โดยที่ไพ่ที่ผู้เล่นได้รับการแจก ใบหนึ่งจะหงายและไพ่หนึ่งใบคว่ำหน้าลง จากนั้นดีลเลอร์จะแจกไพ่อีกหนึ่งใบให้กับผู้เล่นแต่ละคน และอีกหนึ่งใบสำหรับตัวเจ้ามือโดยหงายไพ่ขึ้น
3. ตัดสินใจเลือกรูปแบบเดิมพัน – ในการเลือกรูปแบบเดิมพันผู้เล่นจะต้องจำไว้ว่าเป้าหมายสำหรับตัวเองคือจะต้องให้ไพ่มีแต้มเข้าใกล้ 21 แต้ม ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องไม่เกินนั้น ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจหลังจากได้ไพ่ในรอบแรก โดยรูปแบบการเลือกเดิมพันเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค มีดังนี้
Hit หมายถึง การจั่วไพ่เพิ่มอีกใบ , Stand หมายถึงเลือกยืนยันไพ่ในมือที่มีอยู่ โดยแสดงความต้องการไม่ขอจั่วเพิ่มเติม , Double-Down หมายถึง คุณมีโอกาสที่จะเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า โดยจะได้รับไพ่เพิ่มหนึ่งใบ ซึ่งก็คือการจั่วเพิ่มเติม แต่วิธีนี้อาจมีความเสี่ยงที่หากได้แต้มรวมเกิน 21 แต้ม ก็จะแพ้ทันที
และสุดท้ายคือ Split หมายความว่า หากผู้เล่นได้รับไพ่สองใบที่มีค่าเท่ากัน ผู้เล่นจะสามารถแยกไพ่ออกเป็นสองกอง โดยมีการเดิมพันแยกกันทั้งสองกอง นั่นเอง โดยก่อนจะเริ่มเลือกวิธีเดิมพันนั้นดีลเลอร์จะเริ่มจากผู้เล่นทางด้านซ้ายมือก่อนเป็นคนแรก ซึ่งการนับแต้มของไพ่มีดังนี้ หากเป็นไพ่ตั้งแต่ 2 – 10 จะมีแต้มตามหน้าของไพ่ เช่นหากได้ไพ่หน้า 9 ก็จะมีค่าเท่ากับ 9 แต้ม เป็นต้น
ส่วนไพ่ J Q K จะมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม และ A หรือเอซ จะมีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ทั้งนี้แล้วแต่ไพ่ในมือของผู้เล่นว่าจะมีแต้มรวมเท่าไหร่นั้นเอง และแน่นอนว่าหากไพ่ในมือมีแต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 จะเรียกว่า ไพ่แบล็คแจ็ค และชนะการเดิมพันในตานั้นๆทันที แต่ทั่งนี้ฝั่งดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะมีกฎตายตัวคือ จะต้องเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ และหากผู้เล่นได้แต้มต่ำกว่า 16 ลงมาถือว่า แพ้เจ้ามือ
ขณะเดียวกันผู้เล่นสามารถเลือกการประกันไพ่ได้ โดยหากว่า ดีลเลอร์หงายไพ่ใบแรกออกมาเป็น A หรือเอซ ตามกติกาในการเล่นตานั้นๆก็จะมีระบบประกันทันที เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยงหากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 หรือ แบล็คแจ็ค